
เพลงและดนตรีเขมร (ភ្លេងខ្មែរ)
ดนตรีหรือเพลงเขมรในประเทศกัมพูชามีหลายประเภท ทั้งดนตรีที่ใช้ในงานมงคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ประเภทดนตรีพื้นบ้านทั่วไปคือ เพลงเจรียงจับไปยที่ใช้ในการเล่าเรื่อง เพลงอาไยตอบโต้กัน และเพลงอาเรียะในการทรงเจ้า ประเภทดนตรีราชสำนักและทางศาสนา ก็มีวงดนตรีที่ใช้สำหรับการแสดงประเภทโขน ระบำ รำ และหนังใหญ่ของเขมร ส่วนส่วนมาจะใช้วงพิณพาทย์ ពិណពាទ្យ (ปินเปียต) และวงมโหรี មហោរី (โมเฮารี) โดยมีการจัดแบ่งตามวัตถุประสงค์ของเพลง วงดนตรี ยุคสมัย หรือจัดแบ่งตามทวงทำนองของเพลงก็ดี แต่ในบทนี้จะกล่าวถึงเฉพาะชนิดของวงดนตี และเพลงที่สำคัญเท่านั้นซึ่งได้แก่
1 วงดนตรีและเพลงเขมร
ดนตรีโบราณ
-พิณพาทย์ (ពិណពាទ្យ)
พิณพาทย์ (ពិណពាទ្យ) เป็นรูปแบบดนตรีแบบดั้งเดิม ซึ่งวงดุริยางค์หรือวงดนตรีใช้บรรเลงประกอบพิธีของราชสำนักและวัดต่าง ๆ ในกัมพูชา วงพิณพาทย์ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประมาณเก้าหรือสิบเครื่องดนตรีซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ลม และเครื่องตี (เช่น ปี่ จะเข้ ตะโพน กลอง ซอ ระนาด ฆ้องวง ขิม ฯลฯ) ใช้บรรเลงการจับระบำรำฟ้อน เช่น รำนางอัปสร ละคร โขน หนังใหญ่เขมร Sbek Thom และพิธีทางศาสนา วงพิณพาทย์ของเขมร นั้นคล้ายคลึงกับวงปี่พาทย์ของประเทศไทย
-มโหรี (មហោរី)
ดนตรีพื้นเมืองแบบดังเดิมอีกรูปแบบหนึ่งคือดนตรีมโหรีซึ่งเน้นการบรรเลงเพื่อความบันเทิงของราชสำนักกัมพูชาสยาม และลาว ในขณะที่วงพิณพาทย์มักเกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา การแสดงคลาสสิค หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่วงดมนตรีมโหรีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการทางสุนทรียภาพของชนชั้นสูงเน้นไปที่ความหมายและอารมณ์ที่ให้ความสดชื่นแก่จิตวิญญาณ โดยวงดนตรีมโหรีนิยมเครื่องดนตรีที่มีเสียงอ่อนนุ่ม เช่น ขลุ่ย จะเข้ ซอประเภทต่าง ๆ เป็นเครื่องสาย และ ระนาด กลองและฉิ่ง เป็นต้น
เพลงอารักข์ (ភ្លេងអារក្ខ)
เพลงอารักข์ เป็นเพลงเพื่อวัตถุประสงค์ทางศาสนา และการรักษาตามความเชื่อเรื่องวิญญาณผีของกัมพูชาโบราณ ผีสามารถขับไล่ความเจ็บป่วยได้ เมื่อคนป่วย และต้องการถามผีเกี่ยวกับสาเหตุของโรคจากผีด้วยเพลงที่ไพเราะนี้ อาจจะมีการเข้าทรงหลังจากถามสาเหตุของโรค ผู้ขับร้องจะขอร้องให้ผีรักษาผู้ป่วย และโดยเสนอเครื่องเซ่นต่าง ๆ ให้กับผี เพลงอารักข์มักใช้เครื่องดนตรีเช่น ฟลุต กลอง ซอ และ พิณ
วงดนตรีพื้นบ้าน
นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีพื้นบ้านต่าง ๆ เช่น
- เพลงไฉยุม (ភ្លេងឆៃយ៉ាំ) คือรำกลองยาวเขมรที่ใช้ในงานแต่งงาน งานบวชนาคและเทศกาลงสำคัญของชาวบ้าน
- เพลงกฺลงฉฺนาก (ភ្លេងក្លងឆ្នាក់) คือวงดนตรีเพื่อให้บรรยากาศที่คึกคักของสถานที่พวกเขาเล่นมันในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ของชาวบ้าน มีเครื่องดนตรีหลายชนิด แต่มีเครื่องดนตรีเขมรโบราณหลายชนิด เช่น ซอ จะเข้ ขิม กลอง แต่มีที่เป็นเอกลักษณ์คือมีการใช้ออแกนของฝรั่ง หรือกีตาร์ผสมวง และมีนักร้องประจำวงดนตรีด้วย (ฝากตรวจสอบเนื้อหาเพลงกฺลงฉฺนากเพิ่มเติม ว่าเรียกว่าเพลงกฺลงฉฺนากจริงไหม?)
- เพลงการ (ភ្លេងការ) เป็นวงดนตรีที่ใช้ในงานแต่งงานเขมรโบราณซึ่งมีเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์คือ สฺครธํ (ស្គរធំ) หรือกลองชาตีเขมร ปี่ออเขมร (ប៉ីអ) ขลุ่ย และซอเขมร
ดนตรีสมัยใหม่
-กันตรึม
เป็นเพลงภาษาเขมรในประเทศไทยที่พัฒนาการมาจากเพลงขับร้องโต้ตอบพื้นบ้านของชาวเขมรในประเทศไทย โดยชื่อมาจากกลองกันตรึมที่ใช้ในการแสดงเพลงลิเกพื้นบ้านของชาวเขมรกัมพูชามาก่อน ดังนั้นชาวกัมพูชาจึงถือว่าเพลงกันตรึมคือเพลงลิเกชนิดหนึ่งที่ชาวเขมรในไทยนำไปพัฒนาและนำกลับมาเผยแพร่ในประเทศกัมพูชา แต่ก่อนแฟนเพลงชาวกัมพูชาจะต้องรอฟังผลงานเพลงกันตรึมจากนักร้องชาวไทยเขมร แต่ปัจจุบันมีนักร้องเพลงกันตรึมชาวเขมรกัมพูชาในประเทศกัมพูชาเองเป็นจำนวนมาก
-เพลงรำวง
คล้ายกับเพลงรำวงไทย เป็นประเภทเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อการรำวง ของคู่หญิงชายเดินเป็นวงกลมตามเพลงเป็นจังหวะพื้นฐานง่าย ๆ
-ชะชะช่า
คือเพลงที่ได้รับอิทธิพลจากจังหวะชะชะช่าของฝรั่ง ซึ่งมีต้นกำเนิดจากการเต้นรำพร้อมกับดนตรีในละตินอเมริกา และเป็นที่นิยมในเขมรปัจจุบัน
นอกจากนี้ก็ยังมีเพลงสมัยใหม่อีกหลายประเภท ที่สำคัญเช่น เพลงประกอบภาพยนตร์ บทละคร และเพลงปลุกใจ หรือเพลงชาติ ดังเช่นเพลงนครราช ซึ่งนิยมร้องทอนแรกเป็นเพลงชาติ เป็นประเภทเพลงร้องเดี่ยวประเภทขับร้องประสานเสียง และเพลงเสน่หาพระทองนางนาคเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์พระทองนางนาคในอดีต ซึ่งเป็นเพลงขับร้องคู่ขวัญชายและหญิง
2 อุปกรณ์เพลงเขมร (ឧបករណ៏ភ្លេងខ្មែរ)
เครื่องดนตรีเขมร หรืออุปกรณ์เพลงเขมรส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายเครื่องดนตรีไทย แต่ก็มีเครื่องดนตรีเฉพาะบางชนิดที่เป็นเอกลักษณ์ของเขมรเช่น
1) จาปีเตา 14 ขฺทง ចាប៉ីទោ ១៤ ខ្ទង់ คือกระจับบี่ที่มีช่องดีด 14 เต้าดีดหลัก และจาปีฏงแวง ចាប៉ីដងវែង คือกระจับบี่ยาวมีมากกว่า 14 เต้าดีดหลัก
2) ปี่ออเขมร (ប៉ីអ) คลายขลุ่ยเพียงออแต่มีหางหรือลิ้นเป่าต่อยาวแบบปี่
3) ทฺรอแขมรแขฺสปี ទ្រខ្មែរខ្សែបី คือซอสามสาย
4) ตาเข តាខេ หรือกฺรเพี ក្រពើ คือจะเข้เขมรปัจจุบันมีรูปทรงเหมือนจะเข้ไทย แต่ในสมัยโบราณเชื่อว่ามีการทำจะเข้เขมรเป็นรูปสัตว์จระเข้เหมือนชาวมอญ
5) รนาดแขมร រនាតខ្មែរ คือระนาดเขมรเหมือนระนาดไทยแต่เป็นเครื่องดนตรีที่ขาดไม่ได้ในวงดนตรีโบราณของเขมรทั้งวงพิณพาทย์ และมโหรี
6) ทฺรอเสาแขมร ទ្រសោខ្មែរ คือซอเขมรมีลักษณะเหมือนซอด้วง โดยวงดนตรีเขมรจะมีซอสี่ชนิด คือ 6.1) ซอสามสาย 6.2) ซอด้วง 6.3) ซออู้ และ 6.4) ซอเขมร
3 โน้ตเพลงเขมร
เป็นที่น่าชื่นชมที่เขมรเป็นประเทศหนึ่งที่ใช้โน้ตดนตรีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นของตนเองต่างจากชนชาติต่าง ๆ ในอาเซียน ที่ได้รับอิทธิพลการอ่านโน้ตเพลงของฝรั่ง เพียงแต่โน้ตเพลงโบราณของอาเซียนส่วนใหญ่เป็นโน้ตเสียงเต็มมีเสียงสูง ต่ำ แต่ไม่มีครึ่งเสียงที่ซับซ้อนเหมือนโน้ตดนตรีฝรั่ง และอินเดีย โดยโน้ตเสียงเขมรสามารถเปรียบเทียบกับโน้ตดนตรีต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจดังนี้
ตารางแสดงโน้ตเพลงเขมรเปรียบเทียบกับโน้ตอินเดีย
จีน ลาวและไทย
โน้ต
|
การอ่าน
|
โน้ต
|
โน้ตจีน 1
|
โน้ตจีน
2
|
โน้ตจีน
3
|
โน้ตจีน
4
|
โน้ต
|
โน้ต
|
โน้ต
|
เขมร
|
เขมร
|
อินเดีย
|
(聲類)
|
(工尺谱)
|
(Beth S.)
|
(简谱)
|
สากล
|
ลาว
|
ไทย
|
ก
|
กอ
|
สา
|
宮gōng
|
上shàng
|
合hé
|
1
|
C
|
ໂດ
|
โด
|
ข
|
คอ
|
รี
|
商shāng
|
尺chě
|
四 sì
|
2
|
D
|
ເລ
|
เร
|
ค
|
โก
|
คา
|
角 jué
|
工gōng
|
乙yī
|
3
|
E
|
ມີ
|
มี
|
ฆ
|
โค
|
มา
|
-
|
凡fán
|
上shàng
|
4
|
F
|
ຟາ
|
ฟา
|
ง
|
โง
|
ปา
|
徵zhǐ
|
六liù
|
尺chě
|
5
|
G
|
ຊອນ
|
ซอล
|
จ
|
จอ
|
ดา
|
羽yǔ
|
五wǔ
|
工gōng
|
6
|
A
|
ລາ
|
ลา
|
ฉ
|
ชอ
|
นี
|
-
|
亿yī
|
凡fán
|
7
|
B
|
ຊີ
|
ที
|
ก’
|
กอ’
|
สา
|
宮gōng
|
仩shàng
|
六liù
|
1 |
C
|
ໂດ້
|
โด
|
หมายเหตุ
1. Shēng lèi (聲類) คือระบบดนตรีโบราณจีนที่มีเสียงหลักห้าเสียง
2.
Jiǎnpǔ (简谱)
คือระบบสากลที่แทนเสียงโน้ตสากลทั้งเจ็ดเป็นตัวเลขแบบจีน
3.
Beth S. (เบธ เอส.) คือการจัดเรียงโน้ตจีนระบบ
gōngchěpǔ
(工尺谱) ใหม่ตามทฤษฎีดนตรีตะวันตกของครูสอนดนตรีชาวอเมริกา
Beth Szczepanski (เบธ เช็กเซบานสกี)
โน้ต
|
การอ่าน
|
โน้ต
|
โน้ตจีน
|
โน้ต
|
โน้ต
|
โน้ต
|
||
เขมร
|
เขมร
|
อินเดีย
|
(工尺谱)
|
พินยิน
|
(简谱)
|
สากล
|
ลาว
|
ไทย
|
งฺ
|
โง
|
ปา
|
合
|
hé
|
5
|
G
|
ຊອນ
|
ซอล
|
จฺ
|
จอ
|
ดา
|
四
|
sì
|
6
|
A
|
ລາ
|
ลา
|
ฉฺ
|
ชอ
|
นี
|
一
|
yī
|
7
|
B
|
ຊີ
|
ที
|
ก
|
กอ
|
สา
|
上
|
shàng
|
1
|
C
|
ໂດ
|
โด
|
ข
|
คอ
|
รี
|
尺
|
chě
|
2
|
D
|
ເລ
|
เร
|
ค
|
โก
|
คา
|
工
|
gōng
|
3
|
E
|
ມີ
|
มี
|
ฆ
|
โค
|
มา
|
反 |
fán
|
4
|
F
|
ຟາ
|
ฟา
|
ง
|
โง
|
ปา
|
六
|
liù
|
5
|
G
|
ຊອນ
|
ซอล
|
จ
|
จอ
|
ดา
|
五
|
wǔ
|
6
|
A
|
ລາ
|
ลา
|
ฉ
|
ชอ
|
นี
|
乙 |
yī
|
7
|
B
|
ຊີ
|
ที
|
ก’
|
กอ
|
สา
|
仩
|
shàng
|
1
|
C
|
ໂດ
|
โด
|
ข’
|
คอ
|
รี
|
伬
|
chě
|
2
|
D
|
ເລ
|
เร
|
ค’
|
โก
|
คา
|
仜
|
gōng
|
3
|
E
|
ມີ
|
มี
|
ฆ’
|
โค
|
มา
|
仮 |
fán
|
4
|
F
|
ຟາ
|
ฟา
|
凡/反 (กลาง)
= fán (F) 4
忛/仮 (สูง) = fán (F) 4
一 (ต่ำ) = yī (B) 7
乙 (กลาง) = yī (B) 7
(เพลงขับร้องเดี่ยว)
ចម្រេងនគររាជ
เพลงนครราช
ทอนที่สองของนครราช
บทเขมร | ถ่ายถอด | แปลไทย |
ប្រាសាទសីលា
|
บฺราสาทสีลา
|
ปราสาทศิลา
|
កំបាំងកណ្តាលព្រៃ
|
กํบำงกณฺตาลพฺไร
|
ซ่อนอยู่ท่ามกลางไพร
|
គួរឲ្យស្រមៃ
|
ควรอฺโยสฺรไม
|
ควรคำนึงหวนให้
|
នឹកដល់យសស័ក្តិមហានគរ
|
นึกฎล̍ยสสักฺติมหานคร
|
นึกถึงยศศักดิ์มหานคร
|
ជាតិខ្មែរដូចថ្ម
|
ชาติขฺแมรฎูจถฺม
|
ชาติเขมรดุจหิน
|
គង់វង្សនៅល្អ
|
คง̍วงฺสเนาลฺอ
|
ดำรงวงศ์ละออ
|
រឹងប៉ឹងជំហរ
|
รึงปึงชํหร
|
ยืนหยัดถาวร
|
យើងសង្ឃឹមពរ
|
เยิงสงฺฆึมพร
|
เราหวังซึ่งพร
|
ភ័ព្វព្រេងសំណាង
|
ภัพฺวพฺเรงสํณาง
|
บุญวาสนา
|
របស់កម្ពុជា
|
รบส̍กมฺพุชา
|
แต่กาลก่อนของกัมพูชา
|
មហារដ្ឋកើតមាន
|
มหารฎฺฐเกิตมาน
|
มหารัฐเกิดมี
|
យូរអង្វែងហើយ។
|
ยูรองฺแวงเหิยฯ
|
ช้านานมาแล้ว ฯ
|
(เพลงขับร้องคู่)
ចម្រេងស្នេហា
ព្រះថោង នាងនាគ
เพลงเสน่หาพระทองนางนาค
จากภาพยนตร์เรื่องพระทองนางนาค
บทเขมร
|
ถ่ายถอด
|
แปลไทย
|
(ស) ឱ! ទឹកហូរ... ឆ្ងាយទៅ
|
(ส) ทึกหูร ....ฉงายเทา
|
โอ! น้ำไหล ห่างไป
|
ឆ្ងាយទៅ ...
|
ฉงายเทา...
|
ห่างไป
|
ខ្ញុំនៅ រងា
|
ขญุมเนา รงา
|
ฉันหนาวอยู่
|
ម្នាក់ឯង
|
มนาก่เอง
|
คนเดียว
|
ទឹករលក ហូរយកខ្ញុំ ទៅណា
|
ทึกรลก หูรยกขญุม เทาณา
|
น้ำคลื่นไหลพาฉันไปไหน
|
មេត្តា ... មេត្តា
|
เมตฺตา....เมตฺตา
|
เมตตา....เมตตา
|
អ្នកវាចា សាងសង
|
อะนกวาจา สางสง
|
วาจาของคุณ สร้างส่ง
|
ខ្សិប ប្រាប់ ខ្ញុំផង
|
ขสิบ ปราบ่ ขญุม ผง
|
กระซิบบอกฉันด้วย
|
ខ្ញុំ សូម ផ្សង
|
ขยุม สูม ผะสง
|
ฉันต้องการประสงค์
|
បើជួប គូគ្រង
|
เปีชวบ คูคฺรง
|
ประจวบคู่ครอง
|
ថ្នមបី ត្រកង
|
ผฺนมบี ตฺรกง
|
ถนอมกอดตระกอง
|
មិន ឱ្យ ហ្មង
|
มิน โอย หะมง
|
ไม่ให้มีมลทิน
|
ផ្សង ស្លាប់រស់ ស្មោះ ជានិច្ច
|
ผะสง สะลาบ่รส่ เสฺนา
ชานิจฺจ
|
ประสงค์จนตาย
ซื่อสัตย์เป็นนิตย์
|
(ប) ចន្រ្ទា យាត្រា ឆ្លងដងភ្នំ
|
(บ) จนฺทฺรา ยาตฺรา
ฉฺลงฏงภฺนํ
|
พระจันทร์ยาตราฉลองตรงภูเขา
|
ឯឃ្មុំ ឯឃ្មុំ
|
เอยมุ เอยมุ
|
ผึ้ง ผึ้ง
|
ហើរឆ្លងភ្នំ ក្រេបលំអង កម្រងផ្កា
|
เหีรฉฺลงภฺนํ เกฺรบลํอง
กัมรงผฺกา
|
เหินฉลองพนม
ชิมละอองเกสรผกา
|
ឱ! ស្រស់ដូច ទេវតា
|
โอ! สฺรส่ฏูจ เทวตา
|
โอ! สวยดุจ เทพยดา
|
ហែលទៅណា មកណា
|
แหลเทาณา มกณา
|
ลอยน้ำไปไหน มานี่สิ
|
ហែលទៅណា មកណា
|
แหลเทาณา มกณา
|
ลอยน้ำไปไหน มานี่สิ
|
លើ ជលសារ
|
เลี ชลสาร
|
เหนือ ชลสาร
|
លើ ជលសារ ល្វឹង ល្វើយ
|
เลี ชลสาร ลฺวึง เลฺวีย
|
เหนือ ชลสาร ริมเวิ้ง
|
(ស) ហែល ទៅណា ហែល ទៅណា ស្រេច ចិន្តាស្រី
|
(ส) แหล เทาณา แหล
เทาณา
เสฺรจ จินฺดาสฺรี
|
ลอยไปไหน ลอยไปไหน
สำเร็จจินดาศรี
|
(ប) ប្រណី ប្រណី
|
(บ) ปฺรณี ปฺรณี
|
ปราณี ปราณี
|
នេះនិស្ស័យ ហើយណាថ្លៃ ថ្ងៃជួបគ្នា
|
เนะนิสฺสัย เหียณาถไล
ถไงชวบคฺนา
|
นี้วาสนา ยากแล้วหนา
วันพบกันนา
|
(ស) ឃ្មុំ ច្រើន សាវ៉ា
|
ยนุม เจฺรีน สารา
|
ภมร เจริญ สารา
|
(ប) បង ប្រៀបដូច មច្ឆា
|
บง เปฺรยบฏูจ มจฺฉา
|
พี่เปรียบดุจมัจฉา
|
បាន គង្គា
|
บาน คงฺคา
|
มากมายใน คงคา
|
កាលណា
|
กาลณา
|
กาลไหน
|
ហែល រេរា
|
แหล อรา
|
ลอยมา เร็วไว
|
មិន ចង់ទៅណា
|
มิน จง่เทาณา
|
ไม่ประสงค์ไปไหน
|
ជឿបងចុះ
|
เชือบงจุะ
|
เชื่อพี่เถอะ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น