วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2564

อุปกรณ์เพลงเขมร (ឧបករណ៏ភ្លេងខ្មែរ)

เครื่องดนตรีเขมร หรืออุปกรณ์เพลงเขมรส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายเครื่องดนตรีไทย แต่ก็มีเครื่องดนตรีเฉพาะบางชนิดที่เป็นเอกลักษณ์ของเขมรเช่น (ถ้าแทรกภาพที่ถ่ายรูปเองได้จะดีมาก)

วิดีโอที่ 1 จาปีของเขมร


1. จาปีเตา 14 ขฺทง ចាប៉ីទោ ១៤ ខ្ទង់ คือกระจับบี้ที่มีช่องดีด 14 เต้าดีดหลัก 
และจาปีฏงแวง ចាប៉ីដងវែង  คือกระจับบี้ยาวมีมากกว่า 14 เต้าดีดหลัก

วิดีโอที่ 2 ปี่ออ

2. ปี่ออเขมร (ប៉ីអ) คลายขลุ่ยเพียงออแต่มีหางหรือลิ้นเป่าต่อยาวแบบปี่



วิดีโอที่ 3 ซอสามสายเขมร

3. ทฺรอขะแมร์แขฺสปี ទ្រខ្មែរខ្សែបី  คือซอสามสาย


วิดีโอที่ 4 ตาเขเขมร

4. ตาเข តាខេ หรือกฺรเพี ក្រពើ คือจะเข้เขมรปัจจุบันมีรูปทรงเหมือนจะเข้ไทย แต่ในสมัยโบราณเชื่อว่ามีการทำจะเข้เขมรเป็นรูปสัตว์จระเข้เหมือนชาวมอญ


วิดีโอที่ 5 ระนาดเขมร


5. รนาดแขมร  រនាតខ្មែរ คือระนาดเขมรเหมือนระนาดไทยแต่เป็นเครื่องดนตรีที่ขาดไม่ได้ในวงดนตรีโบราณของเขมรทั้งวงพิณพาทย์ และมโหรี


วิดีโอที่ 6 ซอเสาเขมร


6. ทฺรอเสาขะแมร์ ទ្រសោខ្មែរ  คือซอเขมรมีลักษณะเหมืนซอด้วง



วิดีโอที่ 7 พิณเขมร

7. ปิณขะแมร์ ពិណខ្មែរ มีลักษณะคล้ายฮาร์ป Harp ของพม่าและอินเดียใต้

อาหารเขมร

               อาหารกัมพูชา หรือ อาหารเขมร เป็นอาหารที่บริโภคกันในประเทศกัมพูชา หรือชาวเขมร ซึ่งอาหารกัมพูชาได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้านมาก ทั้งไทย พม่า ลาว เวียดนาม อินเดีย จีนและฝรั่งเศส อาหารเขมรส่วนมากมีความคล้ายคลึงกับอาหารไทย ลาวและจีนเช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน แกงส้มปลาร้า ขนมเทียน ข้าวเหนียวมะม่วง เพียงแต่อาจจะมีเทคนิคการปรุงรส เครื่องเคียง เครื่องจิ้ม ที่มีความแตกต่างกันบ้างโดยชาวเขมรนิยมรับประทานแกงที่เรียกว่า ซอมลอมะจู ซึ่งก็คือแกงส้มปลาร้าเขมรที่มีความเข้มข้นกว่าแกงส้มไทย และโดยมากมักจะมีปลาเป็นอาหารหลัก (ชื่นกลม ปัญญายง 2558: 50, ดวงกมล การไทย ออนไลน์: 2559และณัฏฐิรา ทับทิม และคณะ 2560: 50-53)

วิดีโอที่ 1 การทำห่อหมก

1.      อาม็อก (អាម៉ុក) หรืออาม็อกเตร็ย (អាម៉ុកត្រី)  เป็นอาหารกัมพูชาที่มีชื่อเสียงที่สุด นิยมทำรับประทานในเทศกาลสงกรานต์ มีลักษณะใกล้เคียงกับอาหารของเพื่อนบ้าน คือ ห่อหมกของประเทศไทยและหมกของประเทศลาว แตกต่างรสชาติคือไม่เผ็ด ทำจากปลาน้ำจืด ใส่เครื่องแกง กะทิ ถั่วลิสงอบ กะทิ ไข่ ห่อด้วยใบตองและนึ่งจนกว่าจะสุกและอยู่ตัว สาเหตุที่ประเทศกัมพูชารับประทานปลา เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณกลางประเทศ แต่อาจเปลี่ยนจากเนื้อปลาเป็นไปเนื้อไก่หรือหอยแทนได้


วิดีโอที่ 2 วิธีทำลกลักเนื้อวัว

2.      ลกลัก (ឡុកឡាក់) เป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารฝรั่งเศส ทำจากเนื้อวัว หั่นเป็นลูกเต๋า หมักกับกระเทียม น้ำปลา ซอสถั่วเหลือง ซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย นำไปผัดให้สุกด้วยไฟแรง นิยมกินกับผักน้ำ ผักกาดหอม หอมดอง กระเทียมดอง และข้าวผัดซอสมะเขือเทศ ส่วนในกัมพูชาจะแล่เนื้อวัวให้เป็นชิ้นบาง ผัดกับซอสมะเขือเทศและหอมใหญ่กับกับข้าวและกระเทียมดอง



วิดีโอที่ 3 วิธีทำน้ำพริกปลาร้ากะทิ

3.      ปรอฮ็อกกะติ (ប្រហុកខ្ទិះ) หรือน้ำพริกปลาร้ากะทิของชาวกัมพูชา มีส่วนประกอบหลักคือปลาร้า กะทิ และเครื่องแกงเหลือง อันมีส่วนผสมของ หอมแดง กระเทียม ตะใคร้ ข่า ขมิ้น และผิวมะกรูด โขลกรวมกันอย่างละเอียด นำมาผัดในกระรวมกับเนื้อหมูและเนื้อปลาร้าสับ นิยมรับประทานกับข้าวสวยและผักสด (นันทนา ปรมานุศิษฏ์, 2556:147)  


วิดีโอที่ 4 วิธีทำแกงซอมลกอโก

4.      ซอมลอกอโก (សម្លរកកូរ) แกงกอโกเป็นแกงเผ็ดชนิดหนึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวกัมพูชามีลักษณะคล้ายแกงเลียง แกงข้าวคั่ว หรือแกงผัดพริกแกงน้ำปลาร้า แล้วแต่ตำรับ โดยมีจุดเด่นคือส่วนผสมของเครื่องแกงและปลาร้าเข้มข้นมากกว่าแกงของไทย นิยมใส่ใบมะรุมและผักต่างๆตามต้องการ ส่วนเนื้อสัตว์ ใส่ได้ทั้งเนื้อหมู เนื้อปลา และเนื้อไก่ (ปฐมพงษ์ สุขเล็ก, 2559:63)


วิดีโอที่ 5 วิธีทำแกงซอมลอมะจู

           5. ซอมลอมะจู (សម្លរម្ជូរ) เป็นอาหารที่ปรุงให้มีรสเปรี้ยว มีรูปแบบที่หลากหลาย ในประเทศจะใส่มะเขือเทศ สับปะรด ปลาดุก รากบัวและใบโหระพา ในเสียมราฐใส่หน่อไม้ กุ้งแม่น้ำ สัมลอร์มะจูกรอเอ็ง ใส่น้ำพริก ขมิ้น ผักบุ้ง ผักชีและเนื้อวัว รสเปรี้ยวอาจจะมาจากปลาร้า มะขาม ตะไคร้ มะกรูด มะนาว คล้ายอาหารของเวียดนามที่เรียกว่ากัญจัว

เทศการและประเพณีเขมร

            


  ภาพที่ 1 เทศกาลปีใหม่ของเขมร

ที่มา : Bona. 2562 : online.

    ประเพณีหรือเทศกาลต่าง ๆ ของชาวกัมพูชามีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวกัมพูชา ได้แก่

1.     บุญขึ้นปีใหม่หรือบน โจล ชนัม ทเม็ย

          บุญขึ้นปีใหม่หรือบน โจล ชนัม ทเม็ยแปลว่า บุญขึ้นปีใหม่ ตรงกับวันที่ 14-16 เมษายน  ถือเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวได้กลับมาพบกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนถึงเทศกาลทุกคนในบ้านจะร่วมกันทำความสะอาดบ้านเรือนพร้อบตบแต่งให้สวยงามด้วยโคมไฟหลากสี มีการเตรียมเครื่องแต่งกายชุดใหม่ และที่สำคัญคือการเตรียมเครื่องเซ่นสรวงต่อเทวดา (สงกรานต์กัมพูชา วันปีใหม่แบบเขมร, 2559) 

          เมื่อเข้าสู่เทศกาลในวันแรก หรือ วันทไง มา ฮา ซ็อง กรานต์ จะมีพิธีสำคัญคือ พิธีสังเวยรับเทวดาใหม่ คาดว่าเวลาในการเริ่มพิธีมีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศโดยการรับสัญญาณผ่านโทรทัศน์วิทยุและเสียงระฆังจากวัดในหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นการให้สัญญาณว่าเทวดาใหม่ได้เสด็จมาเพื่อรับเครื่องสังเวยแล้วและจะสถิตอยู่เพื่อปกปักรักษาเป็นเวลา 1 ปี เริ่มจากการจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย พรมน้ำอบแก่เครื่องเซ่นสังเวย และอธิษฐานขอพรจากเทวดา จากนั้นจะนำภัตตาหารไปถวายพระที่วัดรวมถึงขนทรายเข้าวัดเพื่อก่อพระเจดีย์ทราย ส่วนวันที่ 2 หรือ ทไง ก็อน ดาล คล้ายกับว่าเป็นวันของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับและบิดามารดา เนื่องจากในช่วงเช้าจะมีการจัดอาหารคาวหวานและเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อกราบขอพรจากบิดามารดาและผู้มีพระคุณ จากนั้นในช่วงสายจะน้ำภัตตาหารไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่วัดพร้อมทั้งมีการก่อพระเจดีย์ทรายขึ้นอีก 1 กอง ส่วนวันที่ 3 หรือ ทไง เลิง ซ็อก ถือเป็นวันเถลิงศกของชาวกัมพูชา ในช่วงเช้ายังคงมีการนำภัตตาหารไปถวายพระที่วัด ต่อด้วยสรงน้ำพระ และรดน้ำขอพรจากบิดามารดาในช่วงบ่าย จากนั้นจะมีการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน แต่ที่จริงแล้วหนุ่มสาวจะเล่นสาดน้ำและมีการละเล่นต่าง ๆ อาทิ สะบ้า มอญซ่อนผ้า ชักเย่อ ตั้งแต่เริ่มเทศกาล หรือ ทไง มา ฮา ซ็อง กรานต์ (สงกรานต์กัมพูชา วันปีใหม่แบบเขมร, 2559)

 

2.     พิธีแรกนาขวัญ

พิธีแรกนาขวัญเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวกัมพูชา มีขึ้นในช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคมเพื่อความพร้อมของเกษตรกรก่อนการเพาะปลูกข้าว โดยจะพิธีบริเวณสนามหน้าลานพระราชวัง โดยสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นอย่างช้าที่สุดในสมัยนครธม ถือเป็นพระราชพิธีที่พระมหากษัตริย์ให้ความสำคัญต่อวิถีการดำรงชีวิตของราษฎรผู้ทำการเกษตร แม้ว่าพระองค์จะมิได้เป็นผู้ทำการเกษตรโดยตรง ทรงเป็นเจ้าของแผ่นดินแต่มิได้ทรงหวงแหนพื้นที่ไว้เฉพาะพระองค์เพียงผู้เดียว หากแต่พระราชทานพื้นที่ทำกินเหล่านั้นให้แก่ราษฎร ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ราษฎรเหล่านั้นจึงทำการถวายผลผลิตทางการเกษตรของตนต่อองค์พระมหากษัตริย์เพื่อใช้เป็นเครื่องราชูปโภค หรือที่เรียกว่า “การถวายส่วยสาอากร” (ออกญาเทพพิทู และ ขุนอุดมปรีชา, 2550: 87) ความโดดเด่นของพระราชพิธีอยู่ที่การเสี่ยงทายของพระโคโดยการนำอาหาร 7 อย่าง ประกอบด้วย ข้าวสาร ข้าวโพด ถั่ว หญ้า งา เหล้า และน้ำ ให้พระโคเลือกกิน หากพระโคเลือกกินอาหารชนิดใดพยากรณ์ว่าสิ่งนั้นจะบริบูรณ์ดี

 


ภาพที่ ประเพณีแซนโฏนตา
ที่มา : สุภาพร สุธารส. มปป. : ออนไลน์.

3.     ประเพณีงานบุญใหญ่หรือแซนโฎนตา

          ประเพณีงานบุญใหญ่หรือแซนโฎนตาถือเป็นงานบุญใหญ่ของชาวกัมพูชา เป็นการทำบุญเพื่ออุทิศกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ซึ่งมีระยะเวลาการจัดงานถึง 15 วัน ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 จนถึง วันแรม 15 ค่ำเดือน 10  แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 เรียกว่า เบ็นตูจ หรือ สารทเล็ก ส่วนระยะที่ 2 เรียกว่า เบ็นธม หรือ สารทใหญ่ ในส่วนของเบ็นตูจ คือการนำอาหารไปทำบุญที่วัด แต่ที่สำคัญที่สุด คือ เบ็นธม หรือ สารทใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องกลับมารวมตัวกันยังบ้านเกิดเพื่อร่วมกันทำบุญอุทิศกุศลให้แก่บรรพบุรุษ โดยการที่สมาชิกในครอบครัวจะผลัดเปลี่ยนกันนำอาหารไปทำบุญที่วัดทุกวันตลอดระยะเวลา 14 วัน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นข้างแรม เชื่อว่าเป็นช่วงที่วิญญาณของบรรพบุรุษกลับมาสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง ดังนั้นจึงก่อให้เกิดพิธีกันสงฆ์ หรือกันซ็อง ขึ้น

          พิธีดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่าเมื่อบรรพบุรุษกลับมาสู่โลกมนุษย์แล้วจะมาอาศัยพักในวัดบ้านเกิดของตน และรอคอยลูกหลานมาทำบุญ ดังนั้นการทำบุญในประเพณีแซนโฎนตาของชาวกัมพูชาจึงจำเป็นต้องกระทำในวัดบ้านเกิดของตน เนื่องจากหากไปทำที่อื่นเชื่อว่าวิญญาณบรรพบุรุษที่มารอคอยอยู่ที่วัดบ้านเกิดนั้นจะไม่พบลูกหลาน และจะออกตามหาลูกหลานไปทุกวัด และหากยังไม่พบก็จะโกรธและทำการสาปแช่งลูกหลาน ในขณะเดียวกันหากพบว่าลูกหลานมาทำบุญที่วัดบ้านเกิดของตน วิญญาณบรรพบุรุษก็จะชื่นอกชื่นใจให้พรลูกหลาน ทั้งยังปกปักรักษาคุ้มครอง ดังนั้นในส่วนนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความทับซ้อนกันระหว่างความเชื่อในวิญญาณของบรรพบุรุษ หรือกล่าวสั้นๆ ว่าความเชื่อในเรื่องผีกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ว่าวัดจะเป็นที่พักอาศัยของวิญญาณผู้ล่วงลับเมื่อกลับมายังโลกมนุษย์และการถวายอาหารแก่พระสงฆ์จะทำให้วิญญาณของบรรพบุรุษได้รับอาหารนั้น ๆ ไปด้วย ในที่นี้วัดและพระสงฆ์จึงคล้ายกับเป็นสื่อกลางระหว่างวิญญาณของบรรพบุรุษกับลูกหลานให้ได้ติดต่อถึงกันตามพิธีกรรมและความเชื่อ

           การทำบุญในประเพณีแซนโฎนตาจะมีการประกอบอาหารขึ้น 2 ชนิด ถือเป็นอาหารสำคัญประจำประเพณี คือ อ็อนซ็อมทำจากข้าวเหนียวห่อไส้หมูหรือไส้กล้วย และ บายเบ็ณฑ์ คือ ก้อนข้าว ทำขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ผีไร้ญาติ หากพิจารณาตามความเชื่อของชาวกัมพูชาในจังหวัดสุรินทร์นั้นจะพบว่า บายเบ็ณฑ์ มีความเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนา ในเรื่องของจำนวนก้อนข้าวที่ใช้ในพิธีกรรม ซึ่งใช้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 49 ก้อน ตามจำนวนก้อนข้าวที่พระพุทธเจ้าหยิบเสวยเมื่อได้รับการถวายจากนางวิสาขา (ศิริพร สุเมธารัตน์, 2553:455)

      

ภาพที่ การแข่งเรือเทศกาลน้ำของประเทศกัมพูชา
ที่มา : 

4.     เทศกาลน้ำหรือ บอน อม ตุก  

          เทศกาลน้ำหรือ บอน อม ตุก นับเป็นเทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของชาวกัมพูชา จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความสำนึกในพระคุณของพระแม่คงคา แต่พื้นที่สำคัญอยู่ในกรุงพนมเปญ บริเวณแม่น้ำจตุมุข อันเป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำสายหลักในกัมพูชาถึง 3 สาย คือ แม่น้ำโขง แม่น้ำบาสักและแม่น้ำสาบ ภายในงานมีสมเด็จพระบรมนารถนโรดม สีหมุนี เสด็จพระราชดำเนินร่วมงานโดยเป็นองค์ประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะรัฐบาลและข้าราชการระดับสูงตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่า (ธีรภาพ โลหิตกุล, 2558:152) ถือเป็นโบราณราชประเพณีที่มีปรากฏอยู่ในหนังสือพระราชพิธีทวาทศมาส ของขุนอุดมปรีชา อธิบายว่า พระราชพิธีเดือนสิบสอง มี 3 พระราชพิธี คือ พระราชพิธีพายเรือ ลอยพระประทีป และไหว้พระแข (ออกญาเทพพิทู และ ขุนอุดมปรีชา, 2550: 22)  ซึ่งมีความสอดคล้องกับธรรมเนียมการจัดงาน บอน อม ตุก ในปัจจุบัน มีการประกอบพิธีหลัก 3 พิธี คือ

1. พิธีลอยประทีป จะกระทำในช่วงเวลากลางคืน ด้วยการลอยประทีปไปตามลำน้ำ พร้อมทั้งมีการประกวดขบวนเรือที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยไฟหลากสี  (ธีรภาพ โลหิตกุล, 2558:153)

2. พิธีไหว้พระจันทร์ หรือ ชาวกัมพูชาเรียกว่า สัมเพียสพระแข เพื่ออธิษฐานขอพรจาก    ดวงจันทร์ให้มีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์

3. พิธีอุ อัมมก เป็นพิธีกรรมที่ชาวบ้านจะต้องมารวมตัวกันที่วัดในเวลาเที่ยงคืน  เพื่อรับประทาน อัมมก เป็นอาหารชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายข้าวเม่าคลุก ผสมกล้วยและมะพร้าวขูด 


อ้างอิง
สุภาพร สุธารส. (มปป.). งานประเพณีแซนโฏนตา. (ออนไลน์). สืบค้นวันที่ 24/8/2564 จาก 

Bona. (2562). Sawsadey Chanamthani –Chanamchaw Samritdhisak – Paw Saw 2562 (សួស្ដីឆ្នាំថ្មី ឆ្នាំច សំរឹទ្ធិស័ក .. ២៥៦២). accessed 2021/08/24 from https://puthtannbona.wordpress.com/2018/04/05/សួស្ដីឆ្នាំថ្មី-ឆ្នាំច %E2%80%8B/

Chhay. (2562). Khmer Kambucha (ខ្មែរ កម្ពុជា). (online) accessed 2021/08/24 from https://tenor.com/view/ខ្មែរ កម្ពុជា-cambodia-khmer-water-festival-khmer-gif-15284222


พยัญชนะชุด โอ

 

ภาพที่ 1 พยัญชนะชุดโอ +สระ

ที่มา : สร้างเองโดยผู้เขียน


วิดีโอที่ 1 พยัญชนะชุด โอ +สระ 1


วิดีโอที่ 2 พยัญชนะชุด โอ +สระ 2


วิดีโอที่ 3 พยัญชนะชุด โอ +สระ 3


วิดีโอที่ 4 พยัญชนะชุด โอ +สระ 4


วิดีโอที่ 5 พยัญชนะชุด โอ +สระ 5


วิดีโอที่ 6 พยัญชนะชุด โอ +สระ 6





กลับหน้าหลัก


พยัญชนะชุด ออ

 

ภาพที่ 1 พยัญชนะชุด ออ + สระ

ที่มา : สร้างโดยผู้เขียน


วิดีโอที่ 1 พยัญชนะชุด ออ +สระ 1


วิดีโอที่ 2 พยัญชนะชุด ออ +สระ 2

วิดีโอที่ 3 พยัญชนะชุด ออ +สระ 3


วิดีโอที่ 4 พยัญชนะชุด ออ +สระ 4


วิดีโอที่ 5 พยัญชนะชุด ออ +สระ 5






กลับหน้าหลัก


พยัญชนะเขมร

 

ภาพที่ 1 อักษรเขมร
ที่มา : ชนากานต์ กิ่งแก้ววัฒนาและคณะ. มปป. : ออนไลน์



ภาพที่ 2
ที่มา : สร้างโดยผู้เขียน

วิธีการอ่านอักษรเขมร

ก (กอ) ข (คอ) ค (โก) ฆ (โค) ง (โง)

จ (จอ) ฉ (ชอ) ช (โจ) ฌ (โช) ญ (โญ)

ฏ (ดอ) ฐ (ทอ) ฑ (โด) ฒ (โท) ณ (นอ)

ต (ตอ) ถ (ทอ) ท (โต) ธ (โท) น (โน)

บ (บอ) ผ (พอ) พ (โป) ภ (โพ) ม (โม)

ย (โย) ร (โร) ล (โล) ว (โว)

ส (ซอ)  ห (ฮอ) ฬ (ลอ) อ (ออ)


วิดีโอที่ 1 การออกเสียงและเขียนพยัญชนะเขมร

อ้างอิง

ชนากานต์ กิ่งแก้ววัฒนาและคณะ. (มปป.). พยัญชนะตัวเชิง. (ออนไลน์). สืบค้นวันที่ 24/8/2564 จาก https://sites.google.com/site/karreiynrukhemr/home/phyaychna-khemr/1/2






กลับหน้าหลัก