วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เทศการและประเพณีเขมร

            


  ภาพที่ 1 เทศกาลปีใหม่ของเขมร

ที่มา : Bona. 2562 : online.

    ประเพณีหรือเทศกาลต่าง ๆ ของชาวกัมพูชามีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวกัมพูชา ได้แก่

1.     บุญขึ้นปีใหม่หรือบน โจล ชนัม ทเม็ย

          บุญขึ้นปีใหม่หรือบน โจล ชนัม ทเม็ยแปลว่า บุญขึ้นปีใหม่ ตรงกับวันที่ 14-16 เมษายน  ถือเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวได้กลับมาพบกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนถึงเทศกาลทุกคนในบ้านจะร่วมกันทำความสะอาดบ้านเรือนพร้อบตบแต่งให้สวยงามด้วยโคมไฟหลากสี มีการเตรียมเครื่องแต่งกายชุดใหม่ และที่สำคัญคือการเตรียมเครื่องเซ่นสรวงต่อเทวดา (สงกรานต์กัมพูชา วันปีใหม่แบบเขมร, 2559) 

          เมื่อเข้าสู่เทศกาลในวันแรก หรือ วันทไง มา ฮา ซ็อง กรานต์ จะมีพิธีสำคัญคือ พิธีสังเวยรับเทวดาใหม่ คาดว่าเวลาในการเริ่มพิธีมีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศโดยการรับสัญญาณผ่านโทรทัศน์วิทยุและเสียงระฆังจากวัดในหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นการให้สัญญาณว่าเทวดาใหม่ได้เสด็จมาเพื่อรับเครื่องสังเวยแล้วและจะสถิตอยู่เพื่อปกปักรักษาเป็นเวลา 1 ปี เริ่มจากการจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย พรมน้ำอบแก่เครื่องเซ่นสังเวย และอธิษฐานขอพรจากเทวดา จากนั้นจะนำภัตตาหารไปถวายพระที่วัดรวมถึงขนทรายเข้าวัดเพื่อก่อพระเจดีย์ทราย ส่วนวันที่ 2 หรือ ทไง ก็อน ดาล คล้ายกับว่าเป็นวันของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับและบิดามารดา เนื่องจากในช่วงเช้าจะมีการจัดอาหารคาวหวานและเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อกราบขอพรจากบิดามารดาและผู้มีพระคุณ จากนั้นในช่วงสายจะน้ำภัตตาหารไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่วัดพร้อมทั้งมีการก่อพระเจดีย์ทรายขึ้นอีก 1 กอง ส่วนวันที่ 3 หรือ ทไง เลิง ซ็อก ถือเป็นวันเถลิงศกของชาวกัมพูชา ในช่วงเช้ายังคงมีการนำภัตตาหารไปถวายพระที่วัด ต่อด้วยสรงน้ำพระ และรดน้ำขอพรจากบิดามารดาในช่วงบ่าย จากนั้นจะมีการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน แต่ที่จริงแล้วหนุ่มสาวจะเล่นสาดน้ำและมีการละเล่นต่าง ๆ อาทิ สะบ้า มอญซ่อนผ้า ชักเย่อ ตั้งแต่เริ่มเทศกาล หรือ ทไง มา ฮา ซ็อง กรานต์ (สงกรานต์กัมพูชา วันปีใหม่แบบเขมร, 2559)

 

2.     พิธีแรกนาขวัญ

พิธีแรกนาขวัญเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวกัมพูชา มีขึ้นในช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคมเพื่อความพร้อมของเกษตรกรก่อนการเพาะปลูกข้าว โดยจะพิธีบริเวณสนามหน้าลานพระราชวัง โดยสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นอย่างช้าที่สุดในสมัยนครธม ถือเป็นพระราชพิธีที่พระมหากษัตริย์ให้ความสำคัญต่อวิถีการดำรงชีวิตของราษฎรผู้ทำการเกษตร แม้ว่าพระองค์จะมิได้เป็นผู้ทำการเกษตรโดยตรง ทรงเป็นเจ้าของแผ่นดินแต่มิได้ทรงหวงแหนพื้นที่ไว้เฉพาะพระองค์เพียงผู้เดียว หากแต่พระราชทานพื้นที่ทำกินเหล่านั้นให้แก่ราษฎร ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ราษฎรเหล่านั้นจึงทำการถวายผลผลิตทางการเกษตรของตนต่อองค์พระมหากษัตริย์เพื่อใช้เป็นเครื่องราชูปโภค หรือที่เรียกว่า “การถวายส่วยสาอากร” (ออกญาเทพพิทู และ ขุนอุดมปรีชา, 2550: 87) ความโดดเด่นของพระราชพิธีอยู่ที่การเสี่ยงทายของพระโคโดยการนำอาหาร 7 อย่าง ประกอบด้วย ข้าวสาร ข้าวโพด ถั่ว หญ้า งา เหล้า และน้ำ ให้พระโคเลือกกิน หากพระโคเลือกกินอาหารชนิดใดพยากรณ์ว่าสิ่งนั้นจะบริบูรณ์ดี

 


ภาพที่ ประเพณีแซนโฏนตา
ที่มา : สุภาพร สุธารส. มปป. : ออนไลน์.

3.     ประเพณีงานบุญใหญ่หรือแซนโฎนตา

          ประเพณีงานบุญใหญ่หรือแซนโฎนตาถือเป็นงานบุญใหญ่ของชาวกัมพูชา เป็นการทำบุญเพื่ออุทิศกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ซึ่งมีระยะเวลาการจัดงานถึง 15 วัน ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 จนถึง วันแรม 15 ค่ำเดือน 10  แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 เรียกว่า เบ็นตูจ หรือ สารทเล็ก ส่วนระยะที่ 2 เรียกว่า เบ็นธม หรือ สารทใหญ่ ในส่วนของเบ็นตูจ คือการนำอาหารไปทำบุญที่วัด แต่ที่สำคัญที่สุด คือ เบ็นธม หรือ สารทใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องกลับมารวมตัวกันยังบ้านเกิดเพื่อร่วมกันทำบุญอุทิศกุศลให้แก่บรรพบุรุษ โดยการที่สมาชิกในครอบครัวจะผลัดเปลี่ยนกันนำอาหารไปทำบุญที่วัดทุกวันตลอดระยะเวลา 14 วัน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นข้างแรม เชื่อว่าเป็นช่วงที่วิญญาณของบรรพบุรุษกลับมาสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง ดังนั้นจึงก่อให้เกิดพิธีกันสงฆ์ หรือกันซ็อง ขึ้น

          พิธีดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่าเมื่อบรรพบุรุษกลับมาสู่โลกมนุษย์แล้วจะมาอาศัยพักในวัดบ้านเกิดของตน และรอคอยลูกหลานมาทำบุญ ดังนั้นการทำบุญในประเพณีแซนโฎนตาของชาวกัมพูชาจึงจำเป็นต้องกระทำในวัดบ้านเกิดของตน เนื่องจากหากไปทำที่อื่นเชื่อว่าวิญญาณบรรพบุรุษที่มารอคอยอยู่ที่วัดบ้านเกิดนั้นจะไม่พบลูกหลาน และจะออกตามหาลูกหลานไปทุกวัด และหากยังไม่พบก็จะโกรธและทำการสาปแช่งลูกหลาน ในขณะเดียวกันหากพบว่าลูกหลานมาทำบุญที่วัดบ้านเกิดของตน วิญญาณบรรพบุรุษก็จะชื่นอกชื่นใจให้พรลูกหลาน ทั้งยังปกปักรักษาคุ้มครอง ดังนั้นในส่วนนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความทับซ้อนกันระหว่างความเชื่อในวิญญาณของบรรพบุรุษ หรือกล่าวสั้นๆ ว่าความเชื่อในเรื่องผีกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ว่าวัดจะเป็นที่พักอาศัยของวิญญาณผู้ล่วงลับเมื่อกลับมายังโลกมนุษย์และการถวายอาหารแก่พระสงฆ์จะทำให้วิญญาณของบรรพบุรุษได้รับอาหารนั้น ๆ ไปด้วย ในที่นี้วัดและพระสงฆ์จึงคล้ายกับเป็นสื่อกลางระหว่างวิญญาณของบรรพบุรุษกับลูกหลานให้ได้ติดต่อถึงกันตามพิธีกรรมและความเชื่อ

           การทำบุญในประเพณีแซนโฎนตาจะมีการประกอบอาหารขึ้น 2 ชนิด ถือเป็นอาหารสำคัญประจำประเพณี คือ อ็อนซ็อมทำจากข้าวเหนียวห่อไส้หมูหรือไส้กล้วย และ บายเบ็ณฑ์ คือ ก้อนข้าว ทำขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ผีไร้ญาติ หากพิจารณาตามความเชื่อของชาวกัมพูชาในจังหวัดสุรินทร์นั้นจะพบว่า บายเบ็ณฑ์ มีความเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนา ในเรื่องของจำนวนก้อนข้าวที่ใช้ในพิธีกรรม ซึ่งใช้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 49 ก้อน ตามจำนวนก้อนข้าวที่พระพุทธเจ้าหยิบเสวยเมื่อได้รับการถวายจากนางวิสาขา (ศิริพร สุเมธารัตน์, 2553:455)

      

ภาพที่ การแข่งเรือเทศกาลน้ำของประเทศกัมพูชา
ที่มา : 

4.     เทศกาลน้ำหรือ บอน อม ตุก  

          เทศกาลน้ำหรือ บอน อม ตุก นับเป็นเทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของชาวกัมพูชา จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความสำนึกในพระคุณของพระแม่คงคา แต่พื้นที่สำคัญอยู่ในกรุงพนมเปญ บริเวณแม่น้ำจตุมุข อันเป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำสายหลักในกัมพูชาถึง 3 สาย คือ แม่น้ำโขง แม่น้ำบาสักและแม่น้ำสาบ ภายในงานมีสมเด็จพระบรมนารถนโรดม สีหมุนี เสด็จพระราชดำเนินร่วมงานโดยเป็นองค์ประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะรัฐบาลและข้าราชการระดับสูงตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่า (ธีรภาพ โลหิตกุล, 2558:152) ถือเป็นโบราณราชประเพณีที่มีปรากฏอยู่ในหนังสือพระราชพิธีทวาทศมาส ของขุนอุดมปรีชา อธิบายว่า พระราชพิธีเดือนสิบสอง มี 3 พระราชพิธี คือ พระราชพิธีพายเรือ ลอยพระประทีป และไหว้พระแข (ออกญาเทพพิทู และ ขุนอุดมปรีชา, 2550: 22)  ซึ่งมีความสอดคล้องกับธรรมเนียมการจัดงาน บอน อม ตุก ในปัจจุบัน มีการประกอบพิธีหลัก 3 พิธี คือ

1. พิธีลอยประทีป จะกระทำในช่วงเวลากลางคืน ด้วยการลอยประทีปไปตามลำน้ำ พร้อมทั้งมีการประกวดขบวนเรือที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยไฟหลากสี  (ธีรภาพ โลหิตกุล, 2558:153)

2. พิธีไหว้พระจันทร์ หรือ ชาวกัมพูชาเรียกว่า สัมเพียสพระแข เพื่ออธิษฐานขอพรจาก    ดวงจันทร์ให้มีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์

3. พิธีอุ อัมมก เป็นพิธีกรรมที่ชาวบ้านจะต้องมารวมตัวกันที่วัดในเวลาเที่ยงคืน  เพื่อรับประทาน อัมมก เป็นอาหารชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายข้าวเม่าคลุก ผสมกล้วยและมะพร้าวขูด 


อ้างอิง
สุภาพร สุธารส. (มปป.). งานประเพณีแซนโฏนตา. (ออนไลน์). สืบค้นวันที่ 24/8/2564 จาก 

Bona. (2562). Sawsadey Chanamthani –Chanamchaw Samritdhisak – Paw Saw 2562 (សួស្ដីឆ្នាំថ្មី ឆ្នាំច សំរឹទ្ធិស័ក .. ២៥៦២). accessed 2021/08/24 from https://puthtannbona.wordpress.com/2018/04/05/សួស្ដីឆ្នាំថ្មី-ឆ្នាំច %E2%80%8B/

Chhay. (2562). Khmer Kambucha (ខ្មែរ កម្ពុជា). (online) accessed 2021/08/24 from https://tenor.com/view/ខ្មែរ កម្ពុជា-cambodia-khmer-water-festival-khmer-gif-15284222


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น